U-Review

"ดูแล ใส่ใจ ประยุกต์ใช้ทางคลินิก มีจิตรับใช้สังคม" รีวิวคณะกายภาพบำบัด : U-Review


ปัจจุบันประเทศไทยถือว่ายังขาดแคลนผู้ปฏิบัติงานในระบบบริการสาธารณสุขของประเทศ ตั้งแต่ แพทย์ พยาบาล นักเทคนิคการแพทย์ รวมไปถึง “ นักกายภาพบำบัด ” ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพที่เหมาะสมกับบริบทของสังคมไทย ซึ่งกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือผู้มีปัญหาในการเคลื่อนไหว การดูแลตนเอง และการเพิ่มขึ้นของกลุ่มประชากรในวัยอื่นๆ ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคที่ป่วยด้วยโรคทางกายภาพเนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ มากขึ้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นสามารถป้องกัน ดูแล รักษา และฟื้นฟูด้วยวิธีการทางกายภาพบำบัด



สำหรับการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาทางด้านกายภาพบำบัดในปัจจุบัน มีเปิดสอนในหลากหลายมหาวิทยาลัย ทั้งรัฐและเอกชน ซึ่งแน่นอนว่าหลักสูตรการเรียนของแต่ละที่ก็มีจุดเด่นหรือความพิเศษแตกต่างกันไป และสำหรับ คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มีคำนิยามในการเรียนไว้ว่า " ดูแล ใส่ใจ ประยุกต์ใช้ทางคลินิก มีจิตรับใช้สังคม " โดยทางคณะฯ มีนโยบายดูแลนักศึกษาอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัย  

 
UploadImage

“ มีชั่วโมงการฝึกงานกว่า 1,000 ชั่วโมง และนักศึกษาได้ออกฝึกปฏิบัติงานตลอดตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ถึง ชั้นปี 4 ”
อ. มัญชุลีพร วิริยะวัฒนากูล อาจารย์ประจำคณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ


ในส่วนการเรียนเน้นการประยุกต์ใช้ทางคลินิกและการบูรณาการความรู้ทางกายภาพบำบัดกับศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะศาสตร์การเรียนด้านกายภาพบำบัด เป็นวิชาชีพเฉพาะที่ครอบคลุมการตรวจประเมิน วินิจฉัย รวมไปถึงวางแผนการรักษาผู้ป่วยหรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องของภาวะสุขภาพ ทางคณะฯ จึงให้ความสำคัญกับการฝึกปฏิบัติงานจากภาคสนามจริง โดยมีชั่วโมงการฝึกงานกว่า 1,000 ชั่วโมงและนักศึกษาได้ฝึกงานตลอดตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ถึง ชั้นปี 4



สำหรับการเรียนในชั้นปีที่ 1 นักศึกษาจะได้เรียนวิชาศึกษาทั่วไปด้านสังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และพื้นฐานกายวิภาคศาสตร์ ที่เน้นด้านระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ มีการผ่าร่างอาจารย์ใหญ่เพื่อศึกษา และวิชาพื้นฐานวิชาชีพกายภาพบำบัด นอกจากนี้ ระหว่างการปิดภาคเรียน มีการให้นักศึกษาไปอาสาสมัครช่วยงานในแผนกกายภาพบำบัดตามโรงพยาบาล เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และช่วยในการตัดสินใจว่านักศึกษามีความสนใจที่จะเรียนต่อในวิชาชีพนี้ต่อไปหรือไม่ เมื่อเข้าสู่ชั้นปีที่ 2 นักศึกษาจะได้เรียนวิชากายวิภาคศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจงทางวิชาชีพมากขึ้น โดยจะเรียนวิชาพื้นฐานการตรวจร่างกาย การประเมินกำลังกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหวของร่างกาย การออกกำลังกายเพื่อการบำบัด การนวดเพื่อการรักษา การใช้เครื่องมือไฟฟ้าทางกายภาพบำบัด พร้อมกับมีการฝึกงานทางกายภาพบำบัด ซึ่งเป็นการให้การรักษาทางกายภาพบำบัดแก่ผู้ป่วยในชุมชนรอบมหาวิทยาลัย โดยมีอาจารย์จากคณะเป็นผู้ดูแล



จากนั้น เมื่อขึ้นชั้นปีที่ 3 นักศึกษาจะเรียนการรักษาทางกายภาพบำบัดที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การขยับ ดัด ดึงข้อต่อ การวินิจฉัยและการรักษาด้วยไฟฟ้า มีการเรียนรายวิชาบูรณาการเพื่อเตรียมให้นักศึกษาออกไปฝึกปฏิบัติงานกับผู้ป่วยจริงในแต่ละสาขาหลักของกายภาพบำบัด ได้แก่ ผู้ป่วยระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ระบบประสาท ระบบหายใจ หัวใจ และหลอดเลือด รวมทั้งออกไปฝึกงานในโรงพยาบาลใกล้มหาวิทยาลัยหรือใกล้บ้าน โดยระหว่างปิดเทอมชั้นปีที่ 3 นักศึกษาก็จะได้ไปฝึกงานในโรงพยาบาลต่างจังหวัด 2 แห่ง เป็นระยะเวลา 2 เดือน


 
UploadImage

“ นักกายภาพบำบัด คือ ผู้ทำหน้าที่ตรวจวินิจฉัย รักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายของผู้ที่มีปัญหาทางการเคลื่อนไหว ตั้งแต่เด็ก กลุ่มวัยทำงาน ผู้สูงอายุ และนักกีฬา ”
ผศ. ดร. พรรัชนี วีระพงศ์ คณะบดีคณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ



และสุดท้ายในชั้นปีที่ 4 นักศึกษาจะได้เรียนเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยในแต่ละสาขาที่ซับซ้อนและเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เช่น ผู้สูงอายุ นักกีฬา  กายภาพบำบัดเพื่อสุขภาพและความงาม กายภาพบำบัดชุมชนและการส่งเสริมสุขภาพ กระบวนการคิดวิเคราะห์ทางคลินิก มีการทำโครงการพิเศษ เป็นการฝึกกระบวนการทำวิจัย และวิชากฎหมายและการบริหารงาน เพื่อเตรียมเข้าสู่ชีวิตการทำงาน และการฝึกปฏิบัติงานกับผู้ป่วยจริงในภาคการศึกษาสุดท้าย เป็นเวลา 3 เดือน



จากที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่าการเรียนวิชาชีพกายภาพบำบัดนั้น เป็นการเรียนที่ประกอบไปด้วยภาคทฤษฎีและปฏิบัติ รวมถึงการฝึกปฏิบัติจริงกับผู้ป่วย น้องๆ ที่สนใจศึกษาวิชาชีพกายภาพบำบัด ควรมีบุคลิกชอบช่วยเหลือผู้อื่น ชอบการพบปะผู้คน มีความอดทนและความมุ่งมั่นในการทำงานภายใต้สภาวะความเครียด รวมถึงมีความคิดสร้างสรรค์ในการประยุกต์ท่าทางในชีวิตประจำวันหรือเครื่องมือต่างๆ ในการช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น



เพราะ “ นักกายภาพบำบัด ” คือ ผู้ทำหน้าที่ตรวจวินิจฉัย รักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายของผู้ป่วยที่มีปัญหาทางการเคลื่อนไหว อันเนื่องมาจากโครงสร้างร่างกาย ตลอดจนส่งเสริมสุขภาพและป้องกันปัญหาสุขภาพในคนทุกวัย จึงสามารถทำงานได้หลากหลาย อาทิ เป็นนักกายภาพวิชาชีพประจำโรงพยาบาลรัฐและเอกชน รวมไปถึงในสถานเสริมความงาม สถานออกกำลังกาย ประจำทีมกีฬา และประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือเปิดคลินิกกายภาพบำบัด
 
 

รีวิวหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต

ปัจจุบันนี้มีความก้าวหน้าทางการศึกษาที่รวดเร็วทำให้ต้องมีการปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัย ...

การจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Management) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ เพื่อผลิตบุคลากรระดับนักบริหารที่มีความรอบรู้ ...

วิศวกรรมธุรกิจยานยนต์ (Department of Automotive Business Engineering) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

วิศวกรรมธุรกิจยานยนต์เป็นหลักสูตรเกี่ยวกับกระบวนการธุรกิจตลอดจนห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์ ...