สิ่งที่คนไทยขี้เกียจที่สุด แต่ก็มาพร้อมกับโอกาสทางธุรกิจ

สิ่งที่คนไทยขี้เกียจที่สุด แต่ก็มาพร้อมกับโอกาสทางธุรกิจ

ในปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตลาดใหญ่ของธุรกิจอีกตลาดหนึ่งก็คือ "ตลาดคนขี้เกียจ" และเราแทบทุกคนคือ "Lazy Consumer" วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU ชี้ “ตลาดคนขี้เกียจหรือ Lazy consumer” กำลังเป็นที่จับตามองและเป็นโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ เนื่องจากคนทั่วไปมีพฤติกรรมรักความสบายและหันมาพึ่งเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น โดย สิ่งที่คนไทยขี้เกียจที่สุด 10 อันดับ ก็คือ


1. ออกกำลังกาย 84%
2. รอคิวซื้อของ 81%
3. ทำความสะอาดบ้าน 77%
4. อ่านหนังสือ 70%
5. ทำอาหาร 70%
6. พูดคุยหรือเจอคนเยอะๆ 68%
7. ดูแลผิวพรรณตัวเอง 68%
8. เรียน/ทำงาน 65%
9. ออกไปช็อปปิ้ง 64%
10. เดินทางไปไหนมาไหน 60%

ทั้งหมดนี้คือความขี้เกียจที่สามารถกลายเป็นโอกาสใหม่ทางธุรกิจได้ เมื่อผู้คนจำนวนมากหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะในเรื่องของการประหยัดแรงงานและเวลา จนมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่สังคมของความเคยชิน หรือที่เรียกว่า “ความขี้เกียจ” และเศรษฐกิจขี้เกียจ (Lazy Economy) ซึ่งเกิดจากความต้องการความสะดวกสบายในชีวิต โดยที่ผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเงินหากสินค้าหรือบริการนั้นๆ ช่วยทำให้รู้สึกว่าได้รับความสะดวกสบายมากกว่าเดิม

จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการความสะดวกสบายขั้นสุด ยังทำให้เกิดธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เช่น ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจจองคิว บริการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ สินค้าประเภทอาหารพร้อมรับประทาน เป็นต้น และวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้แนะนำวิธีรับมือกับเทรนด์คนขี้เกียจด้วยกลยุทธ์ SLOTH ประกอบด้วย

Speed ต้องมีความรวดเร็ว เพื่อให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกเสียเวลา
Lean ต้องกระชับ ตัด ท่อน เพื่อง่ายต่อการใช้งาน
enjOy ต้องทำให้ผู้บริโภครู้สึกสนุก เกิดแรงจูงใจในการใช้สินค้าและบริการ
convenienT ความสะดวกสบาย ที่ทำให้ชีวิตนั้นง่ายมากขึ้น
Happy ความสุข เมื่อความต้องการได้ถูกเติมเต็ม และ ปัญหาถูกแก้ไขด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด


ที่มา : Future Trends