อ้างอิงอันดับจาก Times Higher Education ซึ่งจัดอันดับมหาวิทยาลัยกว่า 350 แห่งจาก 27 ประเทศในแถบเอเชีย พบว่ามีความน่าสนใจอย่างมาก ว่าแล้วก็ไปเจาะลึกกันเลย
 
ประเทศญี่ปุ่นมาแรงในปีนี้ ด้วยการที่มีมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นกว่า 103 แห่งที่ติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย ตามด้วยประเทศจีน 72 แห่ง และประเทศอินเดียได้รับเหรียญทองแดงไปจากการมีมหาวิทยาลัยติดอันดับ 49 แห่ง เพิ่มขึ้นมาถึง 7 แห่งจากปีที่ผ่านมา
 
อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย ใช้หลักเกณฑ์ในการวัด 13 หลัก เช่นเดียวกับการวัดอันดับมหาวิทยาลัยอันดับโลก ดังนั้นสามารถมั่นใจได้ว่าเป็นการวัดแบบที่มีมาตรฐานเชื่อถือได้อย่างแน่นอน
 

มหาวิทยาลัย 5 อันดับแรกของเอเชีย

 
1 Tsinghua University ประเทศจีน
Tsinghua University เป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นที่รู้กันว่ามีแต่เด็กระดับหัวกะทิทั้งนั้น และรับเฉพาะนักศึกษาที่คะแนนสอบเข้าสูงลิ่วเท่านั้น และด้วยสาเหตุนั้นเอง ทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ติดอันดับ 1 ใน 30 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดระดับโลกเช่นกัน!

2 National University of Singapore ประเทศสิงคโปร์
National University of Singapore หรือ NUS เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ ที่มีผลงานการวิจัยและนวัตกรรมอย่างมากมาย และแน่นอนว่า NUS ติด 1 ใน 30 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดระดับโลกเช่นกัน
 
3 Hong Kong University of Science and Technology ฮ่องกง
แค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้เน้นการสอนไปที่วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม และบริหารธุรกิจเป็นหลัก แต่ก็ไม่ทิ้งคณะที่เกี่ยวกับรัฐศาสตร์และมนุษยศาสตร์เช่นกัน
 
 4 University of Hong Kong ฮ่องกง
University of Hong Kong หรือ HKU เป็นมหาวิทยาลัยที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เพราะจุดเริ่มต้นมาจากการที่รัฐบาลเมืองผู้ดีอังกฤษเป็นผู้เข้ามาก่อตั้งในปี 1911 และมีการบูรณาการร่วมกับวัฒนธรรมจีน กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในปี 1927 HKU เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีส่วนสำคัญในการสร้างการเมืองและเศรษฐศาสตร์จีนในยุคสมัยใหม่ด้วยเช่นกัน
 
5. Peking University, ประเทศจีน
Peking University เป็นมหาวิทยาลัยที่มีรูปแบบการสอนแบบใหม่แห่งแรกในประเทศจีน เรียกได้ว่ามีความเป็นไปตามสากลโลกมากขึ้น และปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับทั้งเรื่องของงานวิจัยต่างๆ มากมาย ทำให้มีศิษย์เก่าที่สร้างผลงานมากมาย รวมถึงรางวัลโนเบลถึง 3 รางวัลอีกด้วย!
 


อ้างอิงจาก
www.timeshighereducation.com